การเจาะสะดือเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมกันมากโดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นทั้งชายและหญิง ตามแฟชั่นเชื่อว่าการเจาะสะดือจะทำให้ดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างจุดเด่นให้กับตนเอง จึงนิยมเจาะสะดือเพิ่มมากขึ้น ทว่าการเจาะสะดือนั้นมองว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่หากทำไม่ถูกวิธีแล้ว อาจเป็นอันตรายร้ายแรงได้ ดังนั้นวันนี้เราจึงมีเทคนิคการเจาะสะดือให้สวยและปลอดภัยที่จะช่วยให้คุณเซ็กซี่มากขึ้น
การเจาะสะดือ คืออะไร
การเจาะสะดือ คือ การเจาะที่ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ สะดือ ลักษณะคล้ายการเจาะหู เจาะปากหรือเจาะจมูก การเจาะสะดือนิยมเจาะรูที่บริเวณด้านบนของสะดือและใส่ห่วงหรือตุ้มตามความชอบ ซึ่งในปัจจุบันนี้ตุ้มหรือห่วงที่นำมาใช้ใส่รูสะดือมีให้เลือกเป็นจำนวนมาก ทั้งวัสดุและรูปแบบ โดยห่วงที่นำมาใช้มีทั้งแบบพลาสติก อลูมิเนียม แพลสตินัม ทองคำ ทองคำขาว และเงินให้เลือก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้งาน
ข้อควรรู้ก่อนเจาะสะดือ
การเจาะสะดือเป็นเรื่องง่าย ๆ สามารถทำการเจาะเสร็จภายในไม่กี่นาที แต่ว่าเมื่อทำการเจาะแล้ว จะต้องได้รับการดูแลและจะเป็นรูไปตลอด ดังนั้นก่อนที่จะทำการเจาะควรพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียของการเจาะสะดือก่อน ดังนี้
1.มีความเสี่ยงอันตรายสูง
เพราะสะดือเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับอวัยวะภายในที่สำคัญหลายส่วน ดังนั้นหากทำการเจาะสะดือแล้วเกิดการติดเชื้อโรคจากความสกปรกของอุปกรณ์ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี บาดทะยัก เป็นต้น โดยเฉพาะการติดเชื้อในกระแสเลือดที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อตามที่แพทย์กำหนด
2.แผลหายช้า
แผลของการเจาะสะดือหลายคนมักคิดว่าไม่กี่วันก็หาย คลายกับการเจาะหู แต่ความจริงแล้ว แผลของการเจาะสะดือนั้นหายช้ามาก หากดูแลอย่างดีต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนแผลถึงจะหายสนิท หากได้รับการดูแลไม่ดีแผลจะต้องใช้เวลาประมาณ 6-7 เดือนถึงจะหายสนิท ซึ่งในระหว่างที่แผลยังไม่หายสนิทจะต้องทำการล้างแผลวันเว้นวัน
3.เสี่ยงต่อการแพ้
สำหรับคนที่มีอาการแพ้ง่าย ควรเลือกวัสดุที่นำมาใส่สะดืออย่างพิถีพิถัน เพราะหากเกิดการแพ้จะทำให้สะดือมีอาการบวม อักเสบและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนที่จะทำการเจาะสะดือว่ามีห่วงสะดือที่สามารถใส่ได้
เลือกสถานที่เจาะสะดืออย่างไรให้ปลอดภัย
สิ่งสำคัญที่สุดในการเจาะสะดือคือสถานที่เจาะสะดือ โดยหลักการเลือกสถานที่เจาะสะดือมีดังนี้
1.พื้นที่ปิด
พื้นที่สำหรับเจาสะดือควรเป็นห้องปิดมิดชิดมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อก่อนทำการเจาะ เพื่อลดความเสี่ยงที่เชื้อโรคจะเข้าสู่แผลที่สะดือ
2.อุปกรณ์มีการฆ่าเชื้อก่อนใช้งาน
อุปกรณ์ในการเจาะสะดือต้องทำการฆ่าเชื้อก่อนใช้งานทุกครั้ง ห้ามนำมาใช้ซ้ำหากไม่ได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อก่อน
การเลือกสถานที่เจาะสะดือจะช่วยให้การเจาะสะดือมีความปลอดภัยและแผลหายเร็วขึ้นด้วย
วิธีดูแลแผลเจาะสะดือ
เมื่อทำการเจาะสะดือมาแล้ว จะต้องทำการดูแลแผลให้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อและทำให้แผลหายเร็วขึ้น ช่วยให้สวยแบบปลอดภัย ซึ่งการดูแลแผลเจาะสะดือมีขั้นตอนดังนี้
- ทำความมือทุกครั้งก่อนทำความสะอาดแผล
- นำสำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดรอบ ๆ แผล ให้สะอาด
- นำห่วงสะดือมาล้างด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ จนสะอาด และเช็ดด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง
- เช็ดรอบแผลให้แห้งด้วยสำลีหรือกระดาษทิชชูแบบอ่อนโยน
ข้อควรระวังในการดูแลแผลเจาะสะดือ
1.ไม่ควรให้ผ้าเช็ดตัวหรือผ้าที่ใช้แล้วมาเช็ดรอบแผล เพราะผ้าอาจมีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกติดมาด้วย
2.ไม่ควรถูหรือเช็ดรอบแผลแรง ๆ เพราะจะทำให้แผลอักเสบได้
3.ควรทำความสะอาดแผลทุกวันหรือวันเว้นวัน ห้ามทิ้งไว้เกิน 2 วัน เพราะสะดือเป็นจุดที่สะสมสิ่งสกปรกได้ง่าย
4.ไม่ควรฉีดน้ำหอมหรือใช้ครีมบำรุงผิวทาบริเวณรอบแผล
5.ไม่แกะแผลหรือสะเก็ดแผลจนทำให้เลือดออก เพราะอาจทำให้เลือดออกและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
6.ใช้ครีมอาบน้ำหรือสบู่สูตรอ่อนโยน เพื่อลดอาการระคายเคืองของแผล
7.ไม่เล่นน้ำหรือแช่น้ำจนกว่าแผลจะหาย
ซึ่งการดูแลแผลเจาะสะดือมีลักษณะเหมือนกับการดูแลแผลสดทั่วไป แต่ว่าแผลที่บริเวณนี้จะหายช้ากว่าแผลจุดอื่น จึงต้องใช้ความอดทนและระยะเวลาในการดูแลที่มากขึ้น
การเลือกห่วงใส่สะดือ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?
หลังจากที่ทำการเจาะสะดือแล้ว สิ่งที่สำคัญนอกจากการดูแลแผลเป็นอย่างดีแล้ว การเลือกห่วงที่นำมาใส่รูที่สะดือก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะหากเลือกห่วงมาใช้ไม่เหมาะสม อาจทำให้แผลเจาะสะดือเกิดอาการอักเสบ เป็นหนองและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ซึ่งการเลือกห่วงใส่สะดือมีหลักดังนี้
1.วัสดุต้องไม่แพ้
วัสดุที่ใช้ในการทำห่วงสะดือมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เช่น ทอง เงิน นาค พลาสติก อลูมิเนียม และไม้ เป็นต้น การเลือกใช้งานควรเลือกวัสดุที่ร่างกายไม่แพ้ โดยสามารถสังเกตได้จากความผิดปกติบริเวณรูเจาะสะดือ หากใส่แล้วมีอาการคันหรือบวมแดง แสดงว่าวัสดุนั้นไม่เหมาะกับการนำมาใส่ ให้เปลี่ยนเป็นวัสดุอย่างอื่นที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แทน
2.น้ำหนักเบา
น้ำหนักของห่วงควรมีน้ำหนักเบา ไม่หนัก เพราะหากใช้ห่วงที่มีน้ำหนักมาก เวลาใส่ห่วงจะถ่วงหนังของรูเจาะสะดือให้ห้อย แผลเกิดแรงดึง เกิดการเสียดสีจนในที่สุดจะเกิดการอักเสบ ดังนั้นจึงควรเลือกห่วงที่มีน้ำหนักเบาจะดี
จะเห็นว่าการเจาะสะดือเพื่อความสวยงามสามารถทำได้ แต่จะต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีแล้วความสวย เซ็กซี่จะไม่เป็นอันตรายกับตัวคุณ