อาการผื่นคันถือเป็นหนึ่งในอาการที่มักทำให้ผู้ป่วยสับสนอยู่บ่อยๆ ว่าอาการคันที่ตัวเองเป็นอยู่คือโรคอะไร บางคนที่หมั่นสังเกตลักษณะของอาการคัน ก็ย่อมหาทางรักษาได้ทันที แต่บางคนที่ไม่ค่อยได้ใส่ใจมักคิดว่าเป็นอาการคันธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป ซึ่งจริงๆ แล้วอาการคันแต่ละประเภทมีลักษณะที่ค่อนข้างชัดเจน ดังนั้นจึงควรศึกษาและสังเกตลักษณะของอาการให้ดี จะช่วยรักษาให้หายได้เร็ว ซึ่งลักษณะอาการของผื่นคันที่จัดอยู่ในประเภทโรคผิวหนังที่พบบ่อยในคนไทยแบ่งออกได้ดังนี้
1.กลาก
สาเหตุของกลาก เป็นผื่นคันที่เกิดจากการติดเชื้อราจากคนหรือสัตว์ โดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยงที่มีขนเยอะ เช่น แมว กระต่าย เป็นต้น กลากเป็นโรคที่ติดต่อได้จากการคลุกคลีกัน เช่น สวมรองเท้าของคนเป็นโรคกลากที่เท้า หรือการคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อรา ทั้งนี้กลากที่ติดจากสัตว์จะทำให้เกิดอาการผื่นคันอักเสบค่อนข้างมากกว่ากลุ่มอื่น
วิธีสังเกตอาการกลาก
– เป็นผื่นตุ่มแดงๆ กระจุกตัวเป็นวงกลม จากนั้นค่อยๆ ขยายวงกว้าง มีขุยสีขาว และคันมาก
– ขอบผื่นจะนูนกว่าบริเวณผื่นตรงกลางอย่างชัดเจน และมีตุ่มน้ำใสๆ เล็กๆ หรือเป็นขุยขาวๆ กระจายอยู่
– กลากมักขึ้นบริเวณที่อับชื้น เช่น ซอกคอพับ ง่ามนิ้ว ก้น อวัยวะเพศ หนังศีรษะ ลำตัว เป็นต้น
– กลากสามารถลุกลามจากที่หนึ่งไปยังที่อื่นๆ ในร่างกายได้
2.ลมพิษ
สาเหตุของลมพิษ เป็นผื่นคันที่เกิดจากการแพ้ ลักษณะของผื่นจะมีความเฉพาะตัวและเด่นมาก เกิดจากการที่เมื่อร่างกายได้รับสารที่กระตุ้นการแพ้ เช่น ยา อาหาร สารที่ผสมในอาหาร หรือละอองเกสร เป็นต้น ร่างกายก็จะหลั่งสาร histamine ออกมา ซึ่งหากสารคั่งอยู่บริเวณใดเป็นพิเศษ ก็จะก่อให้เกิดผื่นลมพิษขึ้นตรงบริเวณนั้นอย่างฉับพลัน
วิธีสังเกตอาการลมพิษ
– ผื่นมีลักษณะเป็นปื้นนูนแดง บวมปูด และคันมาก
– ผื่นจะมีการเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปทั่วร่างกาย เช่น แขน ขา ปาก ตา ลำตัว
– เป็นผื่นตามรอยขูดขีดบนผิวหนัง
– บริเวณที่ขึ้นผื่นจะมีอาการร้อน
– ผื่นดังกล่าวจะหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง แต่อาจจะทยอยขึ้นใหม่ได้เรื่อยๆ
3.โรคเรื้อรัง
สาเหตุของโรคเรื้อรัง โดยผู้ที่มีอาการคันเรื้อรัง โดยร้อยละ 10-15 จะเป็นผลมาจากโรคที่ซ่อนอยู่ ซึ่งผื่นคันบางอย่างเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเรื้อรังที่มีผลข้างเคียงทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายต่ำ บางโรคก็ทำให้เกิดผื่นคันอย่างเห็นได้ชัด และที่พบได้บ่อยก็คือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง
วิธีสังเกตอาการโรคเรื้อรัง
– ขึ้นผื่นแดงบนใบหน้า แขน ขา ลำตัว หรือทั้งตัว บางรายอาจมีสะเก็ดหนาหรือบาง และมีอาการคัน
– เมื่อโดนแสงแดด ผื่นดังกล่าวจะยิ่งแดงมากยิ่งขึ้น
– มีอาการจ้ำเลือด ปวดตามปลายนิ้วหรือตามข้อ มีอาการอ่อนเพลียหรือมีไข้ร่วมอยู่ด้วย
4.โรคผิวหนังอักเสบ
สาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบ เป็นผลจากโรคผิวหนังอักเสบ หรือเรียกว่า eczema สาเหตุของผื่นคันชนิดนี้มาจากกระบวนการทำปฏิกิริยาเองภายในร่างกาย หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายก็คือ เป็นผื่นคันที่มีอยู่ในตัวทุกคน และจะเห่อขึ้นมาเองโดยไม่มีที่มาที่ไป แต่จะเป็นเฉพาะบางคนเท่านั้น ทั้งนี้ลักษณะของอาการผื่นคันจากโรคผิวหนังอักเสบที่พบมากในกลุ่มนี้คือ ผื่นรังแค (seborrheic dermatitis) และ ผื่นแพ้สัมผัส (contact dermatitis)
ผื่นรังแค (seborrheic dermatitis) หรือเรียกว่าโรคเซ็บเดิร์ม เป็นโรคในกลุ่มเดียวกับรังแค เป็นมากพิเศษที่บริเวณที่เป็นสิวหรือมีต่อมไขมันมาก
วิธีสังเกตอาการผื่นรังแค
– เป็นผื่นตุ่มแดง มีอาการแห้งคัน ผิวลอกเป็นขุย มีสะเก็ดคล้ายรังแค จะแสดงอาการเฉพาะจุด เช่น บริเวณหนังศีรษะ หว่างคิ้วเหนือคิ้ว ขอบตา หน้าหู หลังหู ข้างจมูก เป็นต้น
– หน้ามันและเป็นสิว
– ผื่นจะเห่อเมื่อเกิดความเครียด พักผ่อนไม่พอ อากาศแห้ง หรือสัมผัสแสงแดด
– เป็นโรคพาร์กินสัน หรือติดเชื้อ HIV
ผื่นแพ้สัมผัส (contact dermatitis) เกิดจากการสัมผัสสารชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นประจำ สัมผัสมาเป็นเวลานาน หรือสัมผัสในปริมาณเข้มข้นสูง จนร่างกายแสดงปฏิกิริยาต่อต้านออกมา ถ้ามีแผลบริเวณผิวหนังก็จะยิ่งทำให้สารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ยังมีสารเคมีในเครื่องสำอาง เช่น ลิปสติก น้ำหอม น้ำยาย้อมผ้า ครีมบำรุงผิว หรือสารเคมีประเภททำความสะอาด และหากร่างกายแพ้สารชนิดใด โดยส่วนมากแล้วมักจะแพ้ไปตลอดชีวิต ดังนั้นจึงต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสให้ดี
วิธีสังเกตอาการผื่นแพ้สัมผัส
-ผื่นแพ้สัมผัสเฉียบพลัน มีความรุนแรงมากที่สุด จะเป็นผื่นตุ่มน้ำใส มีน้ำเหลืองไหลเยิ้มค่อนข้างมาก และมีอาการคันมากร่วมด้วย
– ผื่นแพ้สัมผัสปานกลาง จะเป็นผื่นตุ่มแดง แห้ง คัน และผิวลอกเป็นขุย
– ผื่นแพ้สัมผัสเรื้อรัง จะเป็นผื่นหนาและแข็ง เห็นลายเส้นที่ผิวหนังชัดเจน มีอาการคัน โดยลักษณะอาการเช่นนี้เกิดจากการที่ปล่อยให้เป็นผื่นนานโดยไม่รักษาให้หายขาด
จะเห็นได้ว่าลักษณะของผื่นคันแต่ละชนิดมีลักษณะอาการที่ชัดเจน ดังนั้นจึงควรสังเกตให้ดี เพื่อจะได้รู้ว่าอาการผื่นคันที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้นคือผื่นคันประเภทใด เพื่อจะสามารถหาวิธีบรรเทาอาการและรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป อีกทั้งยังช่วยให้เราไม่สามารถปล่อยให้อาการแย่ลงเพราะคิดไปเองว่าเป็นอาการคันแบบปกติทั่วไปได้อีกด้วย