โรคเชื้อราในช่องคลอด เป็นโรคที่พบจากผู้หญิง 3 ใน 4 คนซึ่งถือว่าผู้หญิงมักจะป่วยโรคนี้กันเป็นจำนวนมากโดยบางรายอาจจะไม่รู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคนี้อยู่และหนึ่งในชีวิตของผู้หญิงจะติดเชื้อนี้อย่างน้อยมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งโรคเชื้อราในช่องคลอดไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศแต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์จะยิ่งเพิ่มโอกาสติดเชื้อรามากยิ่งขึ้น โดยโรคเชื้อราในช่องคลอดเกิดจากอะไร และจะมีแนวทางป้องกันไหม มาหาคำตอบไปด้วยกันเลยดีกว่า
เชื้อราในช่องคลอด เกิดจากอะไร
โรคเชื้อราในช่องคลอดเกิดได้จากหลายสาเหตุ เป็นโรคที่ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์เป็นมากที่สุด โดยผลสำรวจจะพบว่าผู้หญิง 3 ใน 4 คนเป็นโรคนี้ และสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงเป็นโรคนี้มาจากหลายสาเหตุด้วยกันดังนี้
- ผู้หญิงที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น เนื่องจากว่าการตั้งครรภ์ หรือการรับประทานยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง หรือผู้หญิงที่กำลังรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมนบำบัด
- การใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้เกิดเชื้อราในช่องคลอดได้ เพราะยาปฏิชีวนะได้ไปทำลายแบคทีเรียชนิดดีจนเหลือน้อยลงนั่นเอง
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานแต่ไม่ได้รับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเชื้อราในช่องคลอดมากกว่าคนปกติ
- ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV หรือบำบัดด้วยยาคอร์ติโคสเตียรอยด์จะมีระบบภูมิคุ้มกันต่ำทำให้เสี่ยงที่จะติดเชื้อราในช่องคลอดมากขึ้น
อาการเป็นอย่างไร
โรคเชื้อราในช่องคลอดจะไม่ค่อยแสดงอาการสักเท่าไหร่ไม่ว่าจะเป็นอาการเล็กน้อยไปจนถึงปานกลางจึงทำให้ผู้หญิงหลายๆ คนไม่รู้ว่าตัวเองมีอาการติดเชื้อราในช่องคลอดแต่สำหรับในรายที่มีอาการรุนแรงก็จะแสดงอาการออกมาได้ดังนี้
- มีอาการคันและระคายเคืองในบริเวณช่องคลอดหรือในช่องคลอดด้านใน
- บริเวณอวัยวะเพศจะมีอาการบวมขึ้นเล็กน้อย
- ในขณะที่มีเพศสัมพันธ์หรือเวลาปัสสาวะจะมีความรู้สึกแสบร้อน
- มีผื่นแดงขึ้นตามอวัยวะเพศ
- มีอาการตกขาวอย่างรุนแรงบางครั้งอาจจะมีกลิ่นคาวมีสีขาวเป็นครีมข้น
- หากเป็นโรคเชื้อราในช่องคลอดแล้วจะมีโอกาสที่จะเป็นซ้ำซ้อนได้อีก
วิธีการรักษาเชื้อราในช่องคลอด
ในการรักษาโรคเชื้อราในช่องคลอด จะต้องใช้ยาต้านเชื้อราเป็นหลัก โดยอาจจะเป็นยากิน ยาเหน็บ หรือเป็นแบบครีมขี้ผึ้งใช้ทาก็ได้ ซึ่งการใช้ยาต้องพิจารณาในระดับความรุนแรงของโรคและประเภทเชื้อรา และในส่วนระยะเวลาในการใช้ยานั้นก็จะแตกต่างกันออกไปตามความตอบสนองของผู้ป่วยและความแรงของยา ผู้ป่วยที่ไม่รุนแรงมากสามารถซื้อยาต้านเชื้อราที่มีขายตามร้านขายยาทั่วไปควบคู่กับการดูแลตนเองลดสาเหตุที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ก็จะทำให้หายป่วยโดยเร็ว
แนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราในช่องคลอด
โรคเชื้อราในช่องคลอดถึงแม้จะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงอะไรแต่ก็สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ที่เป็นโรคนี้ได้ไม่น้อย เพราะจะทำให้มีอาการคันและตกขาวรบกวน เพราะฉะนั้นแนวทางในการป้องกันโรคเชื้อราในช่องคลอดสามารถป้องกันได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นหรือการสวนล้างช่องคลอดบ่อยจนเกินไป
- เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่นจนเกินไปรวมถึงควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ เพราะจะสามารถถ่ายเทอากาศและความอับชื้นได้ดี และเมื่อไม่เกิดความอับชื้นก็จะไม่สามารถเกิดเชื้อราได้
- หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้นเป็นเวลานานๆ ควรรีบเปลี่ยนชุดทันทีหลังจากที่ออกกำลังกาย หรือว่ายน้ำเสร็จ
- อาหารก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเชื้อราในช่องคลอด ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทหมักดอง และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารประเภทที่เป็นโยเกิร์ตหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอื่นๆ ที่มีส่วนผสมของแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้จะช่วยปรับสภาพความเป็นกรดและด่างในช่องคลอดได้ดี
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะในเวลานานๆ โดยที่ไม่จำเป็น หรือควรปรึกษาแพทย์ในการใช้ยาก่อนด้วย
- ควรหมั่นใส่ใจสุขอนามัยช่องคลอดเป็นประจำอย่างเหมาะสม
- ในช่วงที่มีประจำเดือนจะต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ อย่าปล่อยค้างไว้นาน เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้นจนเกินไปเพราะจะทำให้เชื้อราเกิดขึ้นได้
การติดเชื้อราในช่องคลอดสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคนโดยที่มีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุในบางกรณีก็ไม่สามารถบอกสาเหตุได้ เพราะในผู้หญิงแต่ละคนนั้นก็มีปัจจัยและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน การป้องกันโรคเชื้อราในช่องคลอดจึงเป็นการปฏิบัติตามสุขอนามัยเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคได้เท่านั้น
